‘Less is More’ น้อยแต่มาก!
#PowerUp #English
#พูดอังกฤษติดสำนวน
หนังสือ IDIOM เล่มใหม่ออกแล้วนะครับ กับสำนักพิมพ์ SE-ED Smart Language ในชื่อว่า…
“POWER UP Your English – พูดอังกฤษติดสำนวนให้ฟังเริ่ด!”
เพื่อน ๆ นักอ่านสามารถหาซื้อหนังสือ POWER UP ได้ที่
– ร้านหนังสือ SE-ED ทุกสาขา
– ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป
– สั่งซื้อ ONLINE ผ่านเว็บไซต์ SE-ED
Less is more
= น้อยแต่มาก / ทำน้อยแต่ได้มาก / ง่ายแต่งาม
ความหมายและที่มา:
– บางครั้งการทำอะไรแบบ “น้อยแต่เน้นๆ” จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
– หรือบางครั้งการทำอะไรที่มากไปเยอะไปก็ไม่ดี
– ในงานศิลปะหรือการออกแบบ ความเรียบง่ายและชัดเจนทำให้ผลงานออกมาโดดเด่นดูดี
สำนวน less is more นั้นปรากฏครั้งแรกในศตวรรษที่19 ในบทกวีของกวีเอกชาวอังกฤษ ‘โรเบิร์ต บราวนิ่ง’ นอกจากนี้ในวงการออกแบบก็มี ‘ลุดวิก มีส แวน เดอร์โรห์’ สถาปนิกชาวเยอรมันที่เป็นผู้บุกเบิกนำปรัชญาดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบอาคาร โดยงานของเค้าส่วนใหญ่เรียบง่ายแต่พิถีพิถัน การใช้แผ่นกระจกแทนผนังปูนทำให้ภายในตัวอาคารดูโปร่งโล่งสบายตา
ลุดวิก มีส แวน เดอร์โรห์ (1886-1969)
ศิลปะแบบ less is more หรือสำนัก Minimalism นี้มีหลักคิดคือ “การใช้ส่วนประกอบที่น้อยแต่ได้ผลมาก ตัดทอนสิ่งไม่จำเป็นออกไป” ซึ่งศิลปะญี่ปุ่นถือเป็นอีกหนึ่งในแม่แบบของแนวคิดนี้ ตรงที่เน้นความเรียบง่าย แสดงสัจจะของธรรมชาติอย่างตรงไปตรงมา
แม้แต่ในวงการเพลง ศิลปินหลายคนก็ให้ความสำคัญกับแนวคิด less is more อย่างเช่น “ฟลี” มือเบสพระกาฬของวงร็อค Red Hot Chili Peppers เคยเผยว่าในชุด Blood Sugar Sex Magik ที่ทำให้พวกเค้าดังถล่มทลายขึ้นมานั้น พวกเค้าได้ปรับแนวทางการเล่นจากเดิมที่ใส่ไม่ยั้ง(ฟังแล้วรก) ก็เพลาลง หันมาเล่นให้มันง่ายขึ้นและน้อยลง(น้อยแต่เน้นๆ) หรือแม้แต่ศิลปินป็อบอย่างแม่สาวแสบ “บริทนีย์ สเปียร์” เองก็เคยออกมายอมรับทีหลังว่าในอัลบั้มที่สี่ In The Zone นั้นมันเยอะไป ถ้าย้อนกลับไปได้เธอจะทำให้มันน้อยๆลงหน่อย
ตัวอย่าง:
– Nowadays most successful horror films rely on psychology to scare audiences, rather than gore. That way Less is more.
(เดี๋ยวนี้หนังสยองขวัญที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะใช้จิตวิทยาทำให้คนดูกลัวมากกว่าจะใช้เลือด มันเป็นการทำน้อยแต่ได้มาก)
;-> :-> ;-> :-> ;-> :-> ;-> :-> ;-> :->
ใส่ความเห็น