เมืองโฉด กระฉ่อนโลก (2)
ปารีส เมืองในฝัน
ปารีส
เมืองโรแมนติคในฝันของใครหลายคน ที่รุ่มรวยทั้งวัฒนธรรม แฟชั่น และอาหารเลิศรส แถมยังมีหอคอยไอเฟลเป็นจุดขาย
แต่มันมีบางสิ่งที่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆจะไม่ได้พบในไกด์บุ๊ค!
เมืองหลวงแห่งนี้มีอัตราการเกิดอาชญากรรมรุนแรงมากกว่าทั่วประเทศเกือบ 3 เท่าตัว!
"การจลาจล" กำลังฉีกเมืองนี้ออกเป็นเสี่ยงๆ…
ในแถบชานเมืองของปารีสอย่างเช่นบองลิเยอนั้น มีการจลาจลประท้วงเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนเป็นเรื่องธรรมดา
มันเป็นการประกาศสงครามทางชนชั้นเชื้อชาติและสีผิว สาเหตุอันเนื่องมาจากความอยุติธรรมในสังคม!
ปารีสเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ แต่ความสัมพันธ์ของมันออกไปในทางแตกแยกมากกว่าปรองดอง
ในตัวเมืองชั้นในซึ่งเป็นที่ตั้งของชองเอลิเซ่ เป็นถิ่นที่อยู่ของชนชั้นกลางและผู้มีฐานะ
ขณะที่ย่านชานเมืองนั้นเป็นถิ่นที่อยู่ของคนจนและผู้ถูกกีดกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของผู้อพยพ
พวกเขาเหล่านี้ถูกกดขี่มานานเกือบศตวรรษ และแม้ในยุคปัจจุบันพวกเขาก็ยังคงถูกเลือกปฏิบัติอยู่ จนเป็นที่มาของความขุ่นแค้นคับข้องใจ
กลุ่มผู้ประท้วง คนหนุ่มสาวผู้อพยพรุ่นที่สอง
มันเป็นสงคราม 2 ขั้วระหว่าง "ผู้อพยพรุ่นที่สอง กลุ่มประชนชนผู้ด้อยโอกาส"
กับ "เจ้าหน้าที่รัฐ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีซาร์โกซี"
ที่ต่างฝ่ายต่างก็แรงมาแรงไป ตาต่อตาฟันต่อฟัน
ในปี 2005 การตายของวัยรุ่นจากชุมชน 2 คนที่เสียชีวิตระหว่างการจับกุมของตำรวจ
เป็นชนวนเหตุของการจลาจลครั้งใหญ่บนท้องถนนในบองลีเยอ เมืองลุกเป็นไฟ รถเกือบหมื่นคันถูกแผดเผาพังพินาศ
และในปี 2007 ได้เกิดการจลาจลใหญ่อีกครั้ง สถานที่ราชการต่างๆถูกวางเพลิง และมีตำรวจได้รับบาดเจ็บกว่า 130 นาย
เหตุการณ์จลาจลในบองลีเยอ
สิ่งที่น่ากลัวก็คือการจลาจลไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในเขตชานเมือง แต่มันมีแนวโน้มที่จะขยายวงลุกลามเข้ามาในตัวเมืองเรื่อยๆ…
โดยการเคลื่อนไหวต่างๆนั้นได้รับแรงเสริมจากการปลุกระดมโดย "เคมิ เซบา" ผู้ได้รับฉายา มัลคอล์ม เอ๊กซ์ แห่งฝรั่งเศส
เคมิเป็นผู้นำที่มีแนวคิดแบบสุดโต่ง เค้าคิดว่าสำหรับประชาชนที่ถูกกดขี่มานานนับศตวรรษ ทางออกเดียวคือความขัดแย้งและความรุนแรง
นอกจากนี้เค้ายังปลูกฝังแนวคิดต่อต้านชาวยิวและลัทธิไซออน อันเป็นที่มาของเหตุการณ์สลดในปี 2006 เมื่อหนุ่มเชื้อสายยิว อิลาน ฮาลิมี ถูกลักพาตัวในกลางกรุงปารีส เค้าถูกทรมานและอดอาหารนาน 3 สัปดาห์ หลังจากที่ได้รับความช่วยเหลือเค้าเสียชีวิตระหว่างถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
จากการปลุกปั่นดังกล่าว ทำให้เคมิถูกพิพากษาให้รับโทษจำคุก 6 เดือน
เคมิ เซบา ผู้นำการประท้วงหัวรุนแรง
ในอดีต เหตุการณ์จลาจลในฝรั่งเศสอย่างเช่นในปี 68 ถูกยกย่องให้เป็นวีรกรรม
มันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมในทางที่ดีขึ้น
ในทางตรงกันข้าม การจลาจลในศตวรรษที่ 21 นี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย
มันมีแต่นำพาความสูญเสีย ความเคียดแค้น ประชาชนเผาบ้านเผาเรือนตัวเอง
วัยรุ่นหนุ่มเลือดเดือดที่มีอคติบังตา ถูกชักจูงครอบงำได้ง่าย
พวกเขาหลงลืมไปแล้วว่าตนกำลังสู้เพื่ออะไร และตกอยู่ในวังวนความขัดแย้ง
Advertisements
ใส่ความเห็น